“เย้ยฟ้า ท้าหมอชิต” พอดีคำ ขอลิขิตชีวิตตนเอง ย้ายไปบรรเลงวิกอื่น

Byพันตา (Panta)

@@@ “ยืนหนึ่ง” สมญาที่หลายคนเรียกขานช่องใหญ่ ช่อง 7 ที่เปิดศักราชใหม่รับปี 2563 ด้วยข่าวที่โครมครามเป็นพิเศษ  เมื่อค่ายผู้ผลิตละครมากฝีมือ พอดีคำ” ประกาศย้ายออกจากช่อง 7 ไปสู่ช่อง One  ข่าวนี้ ทำให้คนในวงการต้องอุทาน ว่า Oh OMG เป็นความสั่นสะเทือนขนาดเกินกว่า 7.7  ริกเตอร์ ของช่อง 7  คนในและนอกวงการเมาท์กันให้แซด บ้างว่าแนวทางไม่ตรงกันกับผู้บริหาร บ้างก็ปากร้ายหาว่าเนรคุณ 

@@@@ จน 2 สามีภรรยา อย่างธงชัยและมณีรัตน์ ต้องเปิดบริษัทแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ  ให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะต้องการส่งต่อให้ลูกชายมาบริหารธุรกิจละครแทน  ส่วนตนเองจะหันไปทำหนังและงานพิธีกร  ก็เป็นการแถลงข่าวที่ต้องถือว่าเป็นมืออาชีพ ไม่มีใครต้องแปดเปื้อน ดูเป็นภาพของการจากกันด้วยดี  ซึ่งว่ากันว่า การโบกมือลาครั้งนี้  2 ผู้บริหารพอดีคำ เป็นฝ่ายเข้าไปบอกขอถอนตัวด้วยตัวเอง จะมาจากปมปัญหาอะไร คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่า 2 คนนี้  แม้ภายนอกมองว่าพอดีคำ มีงานต่อเนื่อง เป็นค่ายลูกรัก แต่ถ้าเป็นลูกรักตัวจริง เหตุการณ์นี้ คงไม่เกิดขึ้น  ก็ขอให้ พอดีคำ ได้สร้างสรรค์งานดี งานโดน ให้คนไทยดูกันต่อไป  แต่ต้องย้ำว่า ย้ายแล้วนะจ๊ะ จากนี้ดูละครใหม่ พอดีคำ ที่ช่อง ONE

@@@ ผลประกอบการของบริษัท พอดีคำ ตามที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2555 -2561 ก่อนยุคทีวีดิจิทัล 2555-2556 มีผลประกอบการโตอย่างก้าวกระโดด และ ปี 2557 เป็นปีที่บริษัทมีรายได้และกำไรสูงสุด มีรายได้อยู่ที่ 215.11 ล้านบาท กำไร 23.78 ล้านบาท และค่อยๆลดลงมาในปี 2560 ที่มีรายได้ 167.44 ล้านบาท กำไร 4.04 ล้านบาท ส่วนปี 2561 มีรายได้ลดลง 151.24 ล้านบาท แต่มีกำไรเพิ่มขึ้น 4.59 ล้านบาท 

@@@ อันที่จริงข่าวที่สั่นสะเทือนช่อง 7 มีมาตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา  ว่ากันว่าผู้บริหารช่อง 7 ต้องเหนื่อยหนักในการเจรจากับผู้ผลิตบางรายที่เตรียมจะจากไป  แต่ก็ยังสามารถเจรจาได้สำเร็จ จึงไม่เป็นข่าวใหญ่เหมือนกรณี พอดีคำ”   แต่ก็ยังพอมองเห็นปัญหาของผังรายการในช่วงเวลา 5 โมงเย็น เนื่องจากเป็นเรื่องแปลก ที่ช่อง 7 ต้องจัดซิทคอม ว่าความตามรัก” มารีรัน  ซึ่งปกติช่อง 7 จะมีผู้ผลิตเดินหน้าเข้าหาต่อเนื่อง เรียกว่า แน่นจนผังรายการไม่มีที่ว่างกันเลยทีเดียว


@@@ President ช่อง 3 “บี๋ อริยะ พนมยงค์” เดินหน้าพบสื่อรับปีใหม่ หลังจากรับตำแหน่งใหญ่มาใกล้จะครบปี ขาดเพียง 2 เดือน แม้ว่าผลประกอบการจะยังขาดทุน ก็ยังปล่อยวาทะให้ความหวังกับสื่อ คาดว่าในปีนี้จะเริ่มมีกำไรอย่างแน่นอน แถมยังคุยฟุ้งว่าจะมีรายได้เป็น 2 เท่าของรายได้ในปีที่แล้ว โดยพึ่งพารายได้จากโฆษณาน้อยลง หวังจะสร้างรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ และ TV Shopping   ตกลงว่าขายโฆษณาไม่เก่ง หรือมีลู่ทางพิเศษ  ก็ขอให้ฝันเป็นจริงนะจ๊ะ เอาใจช่วย

@@@ เรื่องผู้จัดละครช่อง 3 ยังไม่มีใครย้ายช่องเหมือนช่อง 7 แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีเรื่องร้อนแรงเมาท์กันกระจาย ใต้ตึกที่พระราม 4 เรียกว่าร้อนที่สุดตั้งแต่มีช่อง 3 และ “บี๋ อริยะ” ก้าวเข้ามา เมื่อมีข่าวว่า ผู้บริหารคนสนิทของ “บี๋ อริยะ” ที่หอบหิ้วกันมาจากที่ทำงานเดิม แสดงพลังนิ้วบน Social Media ตำหนิละครของช่อง 3 ที่กำลังออกอากาศเอง จนผู้จัดละครช่อง 3 รวมตัวแสดงพลัง ร้อนถึง President ต้องมาออกหน้าหย่าศึกแทน พาให้นึกถึงสำนวนไทย เกี่ยวกับคำพูด ที่ว่า “หากยังไม่พูด เราเป็นนายมัน แต่ถ้าพูดแล้วมันเป็นนายเรา” หรืออย่างงี้คือ “ Change


@@@ บริษัท RS หลังจากที่เน้นธุรกิจขายของ แทนที่ธุรกิจทีวี ก็มีการเปลี่ยนแปลง CFO แล้ว โดยได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงการลาออกของ ดามพ์ นานา” CFO คนสำคัญของ RS ด้วยเหตุผลส่วนตัว และแต่งตั้ง วิทวัส เวชชบุษกร อดีต CFO จากธุรกิจเดินเรือ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ มาเป็น   CFO คนใหม่แทน  ดูกันต่อไปว่าจะมีอะไรใหม่ตามกันมาอีกจาก ช่อง 8

วิทวัส เวชชบุษกร  credit ภาพ จาก ThaiPR.net

@@@ ฟากฝั่ง เวิร์คพอยท์ เมื่อรายการใหม่ๆ ที่ทยอยออกหน้าจอ  ยังไม่ปัง เลยมุ่งหาธุรกิจเสริมรายได้ชุดใหญ่ ล่าสุด แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าบริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่เวิร์คพอยท์ถือหุ้น 100% ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท Zapp On Sale ของ เทพวรรณ คนิณวรพันธ์” ที่โดดเด่นเรื่องการจัดอีเวนท์ และออแกไนเซอร์ สุดจี๊ด ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยเงินลงทุน 5 แสนบาท โดยได้เข้าไปถือหุ้น 50%  ทั้งนี้เวิร์คพอยท์ให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ  ขอให้รุ่งนะจ๊ะ

@@@ สำหรับรายได้จากธุรกิจอีเวนท์  จากข้อมูลผลประกอบการล่าสุดในไตรมาส 3 ของปี 2562 ที่ผ่านมา เวิร์คพอยท์ มีรายได้จากธุรกิจอีเวนท์  34.87 ล้านบาท  ลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2561 ทั้งนี้ทั้งไตรมาสมีรายได้รวมอยู่ที่ 703.56 ล้านบาท โดยที่รายได้หลัก 588.35 ล้านบาท ยังมาจากธุรกิจทีวี

สะท้อนภาพธุรกิจให้ใครต่อใครได้ศึกษา ชัดพอมั้ย


@@@ ต้อนรับเดือนแห่งความรัก Mono จัดซีรีส์จีนพีเรียด ลิขิตรักไข่มุกมังกร” แนวโรแมนติค คอเมดี้ เรื่องราวของ จูอี้หวนองค์หญิง คนสุดท้ายแห่งราชวงศ์หมิงได้รับภารกิจลับให้หาทางเข้าวังเพื่อแก้แค้นและกอบกู้ชื่อเสียงของราชวงศ์กลับคืนมา แต่เมื่อ นางได้พบกับ องค์จักรพรรดิหลงซาน” ความใกล้ชิดและความรู้สึกของเธอกลับเปลี่ยนไป และเริ่มลังเลที่จะต้องเลือกระหว่างภารกิจ เพื่อกู้ชื่อเสียงตระกูลหรือรักแท้  เริ่ม 3 ก.พ.นี้ 

จัดซีรีส์ดียังงี้ คงไม่ไล่ที่นั่งของพนักงานอีกนะ สงสาร คนทีวี


Tagged