โลกมีหลายเรื่องเข้มข้นต้องติดตาม ทางเลือกที่มีบทบาทต่อคนดูมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคนี้ คือการดูข่าวผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะตอนนี้หลายคนไม่เฝ้าหน้าจอทีวีรอดูข่าวตามผังรายการปกติกันแล้ว และที่สำคัญหลายคนติดตาม“คนข่าว” และ “พิธีกรข่าว” ที่คนดูชื่นชอบด้วยวิธีเล่าข่าว ได้แตกต่างจากการดูข่าวทีวีแบบดั้งเดิม ทำให้พิธีกรข่าว สื่อ นักข่าว เปิดช่องทางของตัวเอง มีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ YouTube และ Facebook จำนวนมาก และที่สำคัญพวกเขาเหล่านี้มีรายได้ กำไร อย่างน่าสนใจ
ช่อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการข่าว
เป็นช่องของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตนักข่าว ผู้บุกเบิกวิธีการจัดรายการข่าวแบบใหม่ คือสไตล์เล่าข่าว ปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในการดูแลและบริหารภาพรวมข่าวของช่อง 3 ด้วย นอกเหนือจากจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้ และเรื่องเล่าเสาร์ อาทิตย์
สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรนักเล่าข่าวต้นแบบของวงการ มีคนดูติดตามประจำทั้งในจอและนอกจอ ถ้าภายใต้ร่มของครอบครัวข่าว 3 ออนแอร์ทั้งในทีวี และออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ดิจิทัล คือรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์
และยังมีช่องทางของตัวเอง ที่ออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เท่านั้น คือช่อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมการข่าว เป็นช่องที่เน้นการนำเสนอเนื้อหาเจาะลึก สัมภาษณ์ต่อยอดจากข่าวกระแสร้อน เรื่องใหญ่ในแต่ละวัน โดยใน YouTube กรรมการข่าว เปิดช่องเมื่อ 11 มกราคม 2017 มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1.67 ล้านราย ส่วนใน Facebook มีคนติดตามอยู่ประมาณ 5.2 ล้านราย เปิดเพจเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2016
สรยุทธ กับบริษัท ชัดถ้อย ชัดคำ มีชื่อของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นกรรมการ ในปี 2567 มีรายได้ 122.5 ล้านบาท และกำไร 93 ล้านบาท
ช่อง โหนกระแส พี่หนุ่ม กรรมชัย กับประเด็นร้อนๆ
กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรข่าวที่มากความสามารถ ในช่องทางทีวีมีรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ภายใต้แบรนด์ครอบครัวข่าว 3 และโหนกระแส ที่เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้าน ผ่านช่องทางทีวี และไปดูต่อในออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ใน YouTube โหนกระแส เปิดช่องเมื่อ 1 สิงหาคม 2017 มีสมาชิกอยู่ประมาณ 9.83 ล้านราย ส่วนใน Facebook มีคนติดตามอยู่ประมาณ 9.3 ล้านราย เปิดเพจเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2017
กรรชัย กำเนิดพลอย กับบริษัท ดีวัน ดีคืน มีชื่อ ภูดิที่ กำเนิดพลอย เป็นชื่อจริงของหนุ่ม กรรชัย เป็นกรรมการ ในปี 2567 มีรายได้ 129 ล้านบาท และกำไร 47 ล้านบาท
Suthichai Live สุทธิชัย หยุ่น ไฟแรงตลอดกาล
สุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโสแห่งวงการ อดีตเจ้าของผู้ก่อตั้งเครือเนชั่น เป็นสื่อชั้นครูของอินฟลูเอนเซอร์สื่อในหลายคนวงการ เป็นคนนำเทรนด์เทคโนโลยีช่องทางการเข้าถึงคนดูเสมอ ไฟแรงตลอดเวลา เพื่อวิเคราะห์ เล่าเรื่องใหญ่ในสังคมให้แฟนประจำได้ติดตามกัน
ใน YouTube Suthichai Live เปิดช่องเมื่อ 14 มิถุนายน 2017 มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1.61 ล้านราย ส่วนใน Facebook มีบัญชี ที่ชื่อว่า Suthichai Yoon คนติดตามอยู่ประมาณ 1 ล้านราย เปิดเพจเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2007 และ Suthichai Live คนติดตามอยู่ประมาณ 461,000 ราย เปิดเพจเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2010
สุทธิชัย หยุ่น กับบริษัท กาแฟดำ ซึ่งเป็นชื่อนามปากกา เมื่อครั้งเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ และไทยโพสต์ ในบริษัทกาแฟดำนี้ มีชื่อ สุทธิชัย แซ่หยุ่น เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท ในปี 2567 มีรายได้ 44 ล้านบาท และกำไร 19 ล้านบาท
หมาแก่ เปิด Inside Thailand เจาะลึกทั่วไทย
ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ มีชื่อที่เรียกกันว่า “หมาแก่” ผู้ดำเนินรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เป็นอีกหนึ่งสื่อมวลชนอาวุโสที่เล่าข่าววิเคราะห์ข่าวเจาะลึกที่หลายครั้งสื่อหลายสำนักนำไปอ้างอิงต่อ ปัจจุบันมีรายการออนแอร์ในช่อง 9 ด้วย ช่อง YouTube เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เปิดช่องเมื่อ 25 เมษายน 2019 มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1 ล้านราย ส่วนใน Facebook มีคนติดตามอยู่ประมาณ 832,000 ราย เปิดเพจเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2015
ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ กับบริษัท อัพ ลิงค์ ชื่อ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท ในปี 2567 มีรายได้ 28.2 ล้านบาท และกำไร 3.7 ล้านบาท
กรุณา บัวคำศรี พาชมรอบโลก
กรุณา บัวคำศรี นักข่าวอาวุโสคุณภาพ มากประสบการณ์ในอาชีพสื่อมวลชน เป็นพิธีกรข่าวคุณภาพ ได้รับความน่าเชื่อจากคนดูที่ต้องการรับชมรายการคุณภาพ เนื้อหาวิเคราะห์เจาะลึก ทั้งเนื้อหาด้านต่างประเทศ วัฒนธรรม การเมือง ปัจจุบันจัดรายการใน ThaiPBS ด้วย ช่อง YouTube รอบโลก by กรุณา บัวคำศรี เปิดช่องเมื่อ 30 พฤษภาคม 2019 มีสมาชิกอยู่ประมาณ 1.38 ล้านราย ส่วนใน Facebook มีคนติดตามอยู่ประมาณ 210,000 ราย เปิดเพจเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2015
กรุณา กับบริษัท อัลคา ลิงค์ มีชื่อ กรุณา บัวคำศรี เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท ในปี 2567 มีรายได้ 21.7 ล้านบาท และกำไร 396,490 บาท
5 คนข่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของสื่อมวลชนที่มีผลงานทั้งจากหน้าจอทีวี และต่อยอดมายังออนไลน์ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งการได้ฐานคนดูที่พร้อมส่ง Engage ให้เสมอ อาจมีทั้งกดไลก์ กดเลิฟ หรือกดโกรธ คอเมนต์ชม บ่น หรือวิพากษ์วิจารณ์
ที่สำคัญข้อมูลจากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่แต่ละบริษัทแจ้งผลประกอบการ ทั้งรายได้และกำไร จัดว่าน่าติดตามต่อไปว่า เมื่อเม็ดเงินโฆษณาจากการคาดการณ์ของเอนซี่หลายแห่งบอกว่าสัดส่วนรายได้โฆษณาที่ลงในทีวีเริ่มน้อยกว่าที่ลงในดิจิตอลมีเดียแล้ว และที่มาแรงไม่ใช่สื่อดิจิทัลของสื่อกระแสหลัก แต่เป็นอินฟลูอินเซอร์หลากหลายวงการที่มีฐานผู้ติดตามเหนียวแน่น คือสื่อที่แบรนด์สินค้า บริการพร้อมทุ่มซื้อโฆษณามากขึ้นเรื่อยๆ
หรือทีวีแบบดั้งเดิม ต้องตั้งคำถามใหม่ว่า จะปรับตัวอย่างไร เพื่อให้ได้ทั้งคนดู และเงินรายได้ ไม่ใช่ทำคอนเทนต์แบบเดิม แต่แค่เปลี่ยนช่องทางปล่อยคอนเทนต์เท่านั้น!!!
