เปรียบเทียบค่าบริการสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งของไทย จาก 4 ช่องทีวีดิจิทัล แบบพรีเมี่ยมดูคอนเทนต์พิเศษ ไม่มีโฆษณา 3Plus Premium – Monomax – Bugaboo Premium และ One D Premium แต่ละช่องชูจุดเด่นในแบบของตัวเอง
แพลตฟอร์ม OTT ต่างชาติ กลายเป็นช่องทางที่ทำให้ธุรกิจการสร้างสรรค์คอนเทนต์มีโอกาสมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนัง ซีรีส์ ละคร สารคดี หากทำได้ดี ก็จะสตรีมมิ่งเข้าถึงคนดูที่ไม่ใช่แค่ในประเทศนั้น แต่หมายถึงตลาดกว้างไกลไปทั่วโลก แต่ในอีกมุมหนึ่ง แพลตฟอร์มต่างชาติที่พาหนัง ซีรีส์ ละคร สารคดี มาถึงในบ้านเรา ไม่ต้องไปออกจากบ้านไปดูที่โรงภาพยนตร์ ก็มาชิงเวลาคนดูคนไทยที่เคยต้องอาศัยดูผ่านช่องทางของแพลตฟอร์มไทย ก็ไม่ต้องง้ออีกต่อไป
เป็นสภาพการแข่งขันที่สูงมากของวงการบันเทิง ที่ผู้เล่นระดับโลกรุกคืบเร็วและแรงมาก อย่างล่าสุดที่ Netflix ทุ่มเงินที่คิดเป็นเงินบาทถึง 2.6 ล้านล้านบาท ซื้อบริษัท Warner Bros สั่นสะเทือนวงการบันเทิงไปทั่วโลก ที่ต้องจับตาดูต่อไปว่า จะทำให้วงการบันเทิงบ้านเรามีโอกาสมากขึ้น หรือจะทำให้ต้องออกแรงมากขึ้น เพื่อชิงคนดูกลับมา
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ ค่ายธุรกิจบันเทิงของไทย ที่มีฐานการสร้างสรรค์คอนเทนต์บันเทิง อย่างหนัง ซีรีส์ ละคร แบบครบวงจร รวมถึงศิลปินดารานักแสดงในค่าย ต่างก็สร้างแอปพลิเคชั่น สตรีมมิ่งให้แฟนๆ ได้ดาวน์โหลด เข้าถึงความบันเทิงโดยตรง ซึ่งมีทั้งแบบดูฟรี พ่วงโฆษณา หรือสมัครสมาชิก
ที่มาแรงขยันขันแข็ง ในการโปรโมทแอปของตัวเอง จนเป็นที่สนใจกัน คือ ช่อง 3 ช่องวัน ช่องโมโน ช่อง 7 ที่มียอดดาวน์โหลดใน App Store ในหลัก 10 ล้านครั้งขึ้นไป โดยมีทั้งแบบดูฟรี และมีแพ็คเกจจ่ายค่าสมาชิก นอกจากดูแบบไม่มีโฆษณาแล้ว จะได้ดูรายการพิเศษ ดูรายการรีรัน ดูถ่ายทอดสดรายการพิเศษ
เรามาดูเปรียบเทียบกันว่า 3Plus Premium ช่อง 3 และ Monomax ช่องโมโน Bugaboo Premium ช่อง 7 และ One D Premium ช่องวัน มีแพ็คเกจจ่ายค่าสมาชิก คิดราคากันเท่าไรบ้าง
3Plus Premium กับ 3 แพ็คเกจ
ช่อง 3Plus เปิดตัวเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2558 จุดเด่นคือกลุ่มรายการบันเทิงอย่างละคร ซีรีส์ โปรโมทไว้ว่า “มากกว่าทีวีที่ 3Plus ดูสดและย้อนหลังในแอปเดียว รวมความบันเทิงแบบครบครันทั้งละคร/ข่าว/ ซีรีส์ และ Mello Original Content” ส่วนที่เป็น 3Plus Premium แบ่งเป็น 3 แพ็คเกจ คิดค่าบริการ ดังนี้
- 1 เดือน (30 วัน) ราคา 69 บาท
- 3 เดือน (90 วัน) ราคา 249 บาท
- 6 เดือน (180 วัน) ราคา 489 บาท
- รายปี (365 วัน) ราคา 949 บาท
3Plus Premium มีพาร์ทเนอร์ค่ายมือถือคือ AIS Play จัดแพ็คเกจเดือนละ 59 บาท รายปี 360 บาท
Monomax มี 2 แพ็คเกจ
Monomax เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 โปรโมทว่ามีคอนเทนต์หนัง และกีฬา โปรโมทไว้ว่า มีให้บริการดูหนัง และซีรีส์ออนไลน์มากกว่า 20,000 ชั่วโมง ให้คุณเลือกทั้ง หนัง, ซีรีส์, กีฬา, การ์ตูน, ทีวีโชว์, มิวสิควีดีโอ และสารคดี จากหลากหลายประเทศไม่ว่าจะ ไทย, จีน, อินเดีย, ฝรั่ง เกาหลี หรือ ญี่ปุ่น ดูได้ไม่อั้น มี 2 แพ็คเกจ คิดค่าบริการดังนี้
- รายเดือน 299 บาท
- รายปี 2,999 บาท
Monomax มีพาร์ทเนอร์ค่ายมือถือคือ AIS Play เดือนละ 89 บาท รายปี 499 บาท
Bugaboo Premium จัดให้เลือก 5 แพ็คเกจ
Bugaboo.TV เปิดตัวเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ของช่อง 7 โปรโมทไว้ว่า รวบรวมรายการสด และย้อนหลังของช่อง 7HD และคอนเทนต์ Exclusive อีกมากมาย รับชมรายการ และละครคุณภาพจากช่อง 7HD ได้แบบจัดเต็ม กว่า 20,000 ชั่วโมง อัดแน่นไปด้วย ละครย้อนหลังแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ไม่พลาดทุกเรื่องราวของข่าว ตามติดดาราคนโปรด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็รับชมได้ทั่วโลก มี 5 แพ็คเกจ คิดค่าบริการ Bugaboo Premium ดังนี้
- 59 บาทต่อสัปดาห์
- 199 บาทต่อเดือน
- 379 บาทต่อ 3 เดือน
- 479 บาทต่อ 6 เดือน
- 799 บาทต่อปี
One D Premium เดือนละ 99 บาท
One D เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2557 โปรโมทไว้ว่า เป็นแอปที่ดีที่สุดสำหรับรับชมคอนเทนต์ไทยฟรี โดยรวบรวมละครไทย ซีรีส์ ซิทคอม รายการวาไรตี้ และคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดจาก The One Enterprise ทั้งจาก one31, GMM25, GMMTV, Change2561, GDH, Nadao Bangkok, Exact, Scenario, Atime Media และ GMM Show
โดยแพ็คเกจสมัครจ่ายค่าสมาชิก “One D Premium” คิดค่าบริการเดือนละ 99 บาท
One D Premium มีพาร์ทเนอร์ค่ายมือถือคือ AIS Play จัดแพ็คเกจเดือนละ 59 บาท รายปี 499 บาท
แน่นอนว่า ช่องทีวีดิจิทัลของไทย ที่มีแอปฯ สตรีมมิ่งสมัครสมาชิกที่พร้อมจ่ายค่าบริการ ยังไม่สามารถตั้งราคาสูงได้มากนัก เพราะมีแอปฯสตรีมมิ่งต่างชาติรุกตลาดไปทั่วโลก ที่คนดูรู้สึกว่าคุ้มค่ากว่า แม้จะจ่ายสูงกว่าสตรีมมิ่งไทย เพราะได้ดูคอนเทนต์จำนวนมากจากทั่วโลก อย่างเช่น HBO Max ราคา 199-299 บาทต่อเดือน และ Netflix คิดค่าบริการ 99-419 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์รับชม และความคมชัด ได้ชัดแจ่มแจ๋วตามราคาที่พร้อมจ่าย เป็นต้น
