บทสรุป “กรงกรรม” VS “หลงเงาจันทร์” ส่งต่อ “แรงเงา 2” VS “กุหลาบเกราะเพชร”

ละคร-ซีรีส์ วิเคราะห์เจาะเรตติง

แม้ว่าภาพรวมละคร “กรงกรรม”ช่อง 3 มีเรตติ้งเฉลี่ย สูงกว่าละคร “หลงเงาจันทร์” ช่อง 7 แต่หากเทียบกันตอนต่อตอนของ 2 เรื่องนี้ จะเห็นว่าละครทั้ง 2 เรื่องสู้กันสูสีสุดๆ ในช่วงต้นถึงกลางเรื่อง จนครึ่งหลัง “กรงกรรม”ได้ทั้งกระแสและเรตติ้งจึงเริ่มมีเรตติ้งนำห่าง

“หลงเงาจันทร์” ช่อง 7 ทำเรตติ้ง ตอนแรก ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 4.679 ตามมาตรฐานของละครช่อง 7 ออนแอร์ตามหลัง “กรงกรรม” 3 ตอน ทำให้มีเรตติ้งแพ้ “กรงกรรม”ตอนที่ 4 ที่ได้ไป 4.704 อย่างเฉียดฉิว

ในขณะที่ “กรงกรรม” เริ่มต้นเพียง 3.167 เท่านั้น  เมื่อมาเจอกับ “หลงเงาจันทร์”ในช่วงแรก จึงมีเรตติ้งนำอยู่ไม่มาก

ในช่วงกลางเรื่อง “หลงเงาจันทร์” พลิกมานำ “กรงกรรม”ได้ 2 ตอน  และมานำได้อีกครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 15 เม.ย.ด้วยเรตติ้ง 5.925 และ “กรงกรรม” 5.891 หลังจากนั้น “กรงกรรม” ก็นำจนม้วนเดียวจบ ด้วยเรตติ้งตอนจบ 11.136 ส่วน “หลงเงาจันทร์” 7.248

 

“สารวัตรใหญ่”ช่อง 7 ยังยืนหนึ่ง เรตติ้งสูงสุด ครึ่งปีแรกของทีวีดิจิทัล 

“กรงกรรม” ได้เป็นละครที่มี “ตอน” ที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 3 ในปีนี้ ด้วยตอนจบ 11.136  แต่ยังเป็นรองละคร“สารวัตรใหญ่” ละครบู๊ สะท้อนชีวิตตำรวจ ของช่อง 7 ที่ทำเรตติ้งตอนจบไว้ที่ 11.291 ยังคงรักษาสถิติเรติ้งสูงสุดของปีนี้ไว้ได้

นอกจากนี้ เมื่อลงลึกรายละเอียดเรตติ้ง “กรงกรรม” มีความห่างของเรตติ้งแต่ละตอนสูง เป็นการค่อยๆไต่ระดับขึ้นมา จึงมีเรตติ้ง “เฉลี่ย” ทั้งเรื่องอยู่ที่ 6.256 เท่านั้น ยังไม่ชนะ “ทองเอก หมอยาท่าโฉลง”ของช่อง 3 ที่ทำเรตติ้งเฉลี่ยไว้ 6.520 แม้ว่าตอนจบจะได้เรตติ้ง 8.522 เท่านั้น ส่วน “หลงเงาจันทร์”ได้เรตติ้งเฉลี่ย 5.770

ฐานผู้ชมของ “กรงกรรม” มีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมากที่สุด รองลงมาคือภาคกลาง และมีน้อยที่สุดที่ภาคใต้และภาคอีสาน  ส่วน “หลงเงาจันทร์” ได้ผู้ชมในภาคใต้และภาคอีสานมากที่สุด น้อยที่สุดคือกรุงเทพ  จะเห็นว่าสัดส่วนเป็นไปตามฐานผู้ชมของทั้ง 2 ช่องด้วย

ช่วงอายุที่รับชมละครมากที่สุดทั้ง 2 เรื่อง ยังเป็นกลุ่มคนช่วงเดียวกันอายุ 50 ปีขึ้นไป และกลุ่มอายุ 45-49 ปี แน่นอนว่าเป็นกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

ทั้ง 2 เรื่องออกอากาศไม่พร้อมกัน แต่จบพร้อมกัน โดยที่ทั้ง 2 ช่อง จะเริ่มละครชุดใหม่พร้อมๆกัน ช่อง 7 งัดกลยุทธ์เด็ด จัดละครบู๊ที่เป็นซิกเนเจอร์ของช่อง ที่เมื่อต้องชนละครคู่แข่งที่มีทีท่าจะแรง ก็จะจัดละครบู๊เรียกเรตติ้งรัวๆทุกครั้ง

มาครั้งนี้ช่อง 7 จัด “กุหลาบเกราะเพชร”  ได้ เอส-กันตพงศ์ จากละคร “สารวัตรใหญ่” ละครที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 7 ได้เรตติ้งตอนจบ 11.291 เป็นละครที่ทำเรตติ้งเกิน 10 เป็นเรื่องแรกของช่อง 7 ตั้งแต่ปี 2561 และมีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่  8.022  มาชนกับ “แรงงา 2” ละครดราม่ารสจัดภาคต่อ “แรงเงา 1” ที่ออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2555 รอนานถึง 7 ปีจึงมีภาคต่อออกมา แต่ต้องพิสูจน์ว่า จะแซ่บเหมือนตอนแรกหรือไม่

การแข่งขันระหว่างละครบู๊ กับละครดราม่าจัด แถมมีละครจากช่องวัน ที่พร้อมเข้ามาแย่งชิงผู้ชมได้ตลอดเวลา ตลาดคอนเทนต์เดือนพ.ค.ชุดใหม่นี้ น่าจะแข่งขันกันเดือดร้อนแรงเช่นเดียวกับสภาพอากาศของช่วงนี้

Tagged