ทีวีดิจิทัลกำลังจะมีคู่แข่งเพิ่มอีกช่องแล้ว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเดินหน้าอัพเกรดช่อง T Sports เป็นทีวีดิจิทัล HD ช่องกีฬาใหม่ ยื่นเรื่องเสนอขอ กสทช.ขอใบอนุญาตกสทช.ทดลองออกอากาศ 6 เดือน ในช่องหมายเลข 7
เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานกสทช.ได้มีการจัดทำ Focus Group ในกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลในปัจจุบันทุกช่อง เพื่อรับฟังความเห็นกรณีที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยื่นขอใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการทีวีดิจิทัลในหมวดหมู่ช่องสาธารณะประเภทที่ 1 กลุ่มทีวีกีฬาและการท่องเที่ยว โดยมี พลโท พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช.เป็นประธานการประชุม ในขณะที่ฝ่ายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่มาชี้แจงนำโดย โชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย และ อติชาต ชื่นสุวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกีฬาอาชีพ และโปรดปราน สมานมิตร ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการฯ
โดยสรุปข้อเสนอของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ขอทำช่องกีฬา ในช่องดิจิทัลทีวีหมายเลข 7 ที่ กสทช. เคยกำหนดไว้ให้เป็นช่องในหมวดช่องสาธารณะประเภทที่ 1 ช่องรายการกีฬา ออกอากาศแบบ HD
ซึ่งหากได้รับอนุญาตจากกสทช.แล้ว มีแผนจะเริ่มทดลองออกอากาศในเดือนพ.ค.2564 เป็นเวลา 6 เดือนก่อนที่จะประเมินผลเป็นช่องสาธารณะแบบยั่งยืน
ส่วนที่สำคัญและทุกคนคงสนใจใคร่รู้คือในเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการลงทุน ซึ่งหากทำตามแผนที่นำเสนอจะต้องผลิตรายการใหม่ ทำการถ่ายทอดสดรายการกีฬาต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเงินก้อนโตมาก ผู้นำเสนอฝั่งกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาแจ้งว่า จะใช้เงินกองทุนพัฒนากีฬาใน 3 ปีแรก ไม่มีสปอนเซอร์ในรูปแบบธุรกิจ แต่มีการตอบแทนผู้สนับสนุนกิจกรรมของ กกท.ในรูปแบบของ CSR
ทั้งนี้ในห้องประชุม การนำเสนอแผนงานที่ฟังดูสวยหรู ดำเนินโดย อติชาต ชื่นสุวรรณ กรรมการ ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารด้านการตลาดของ แพลนบี และมีบทบาทมาตั้งแต่ครั้งการนำเสนอลิขสิทธิ์โอลิมปิกโตเกียว แต่ปัจจุบันผันแปรบทบาทมาเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าการฯด้านสิทธิประโยชน์ฯ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกีฬาอาชีพ
ในแผนงานระบุไว้ว่า การผลักดันช่อง T Sports ซึ่งเป็นช่องรายการกีฬาผ่านดาวเทียมของกระทรวงอยู่แล้ว ให้เป็นช่องทีวีดิจิทัลในหมวดหมู่ช่อง HD นั้น เพื่อเป็นการผลักดันภารกิจของกระทรวงในการพัฒนากีฬาและการท่องเที่ยว สร้างฐานความนิยมในประเภทรายการกีฬาและกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและการท่องเที่ยวทั่วประเทศด้วย
การมีช่องกีฬาจะสร้างทางเลือกที่หลากหลายในการรับชมกีฬาของคนไทย และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างนักกีฬาของประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องมีรายการในช่องทีวีดิจิทัล เพราะเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มของประเทศ
สัดส่วนเนื้อหารายการจะเป็นรายการกีฬา 80% ที่ครอบคลุมถึงรายการถ่ายทอดสดรายการกีฬาในประเทศและระดับโลก เช่น ฟุตบอลไทยลีก กีฬาต่างประเทศ ที่เหลือ 20%แบ่งเป็น 15% เป็นรายการท่องเที่ยว ชุมชน และอีก 5%เป็นรายการประเภทสุขภาพและพัฒนาสังคม
ในขณะเดียวกันรายการในผังจะแบ่งเป็น 3 ประเภท ประเภทรายการต่างๆ 79% หรือประมาณ 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รายการข่าว 16% หรือประมาณ 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และรายการถ่ายทอดสด 5% หรือประมาณ 5-8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ความคาดหวังความสำเร็จของการอัพเกรดเป็นทีวีดิจิทัลของช่องกีฬา T Sports นั้น ระบุว่า จะสร้างความนิยมและติดตามกีฬาของแต่ละสมาคมอย่างน้อย 5% ผู้ชมสามารถรับชมรายการกีฬ่าได้อย่างน้อย 15 ชนิดรายการ ทั้งนี้ยังมีแผนที่จะซื้อลิขสิทธิ์รายการกีฬาสำคัญในระดับนานาชาติมาออกอากาศด้วย
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุม Focus Group ช่องทีวีดิจิทัลส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงกับการมีช่องกีฬา ว่าอาจส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจ นอกจากจะมีคู่แข่งใหม่เพิ่มขึ้นมา คู่แข่งใหม่ยังมีความคมชัดในระดับ HD ช่องทีวีดิจิทัลความคมชัดระดับ SD ที่มาจากการประมูลราคาแพงลิ่ว คงน้ำตาตกในกันบ้าง
มองในด้านธุรกิจ การบริหารต้นทุนก็จะยากขึ้นเพราะมีคู่แข่งกระเป๋าหนัก มีเงินจากภาครัฐสนับสนุนโดยที่ไม่ต้องบริหารกำไรเพิ่มเข้ามา โดยเฉพาะรายการกีฬา โอกาสที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะลดราคาให้กับผู้ขอซื้อก็จะยิ่งยากขึ้น กลุ่มทีวีดิจิทัลภาคธุรกิจที่ได้ใบอนุญาตมาจากการประมูลในอัตราสูง การดำเนินงานมีค่าใช้จ่าย ต้นทุนสูงกว่า เม็ดเงินโฆษณาก็หายาก เพราะต่างก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รายการกีฬาเป็นหนึ่งในคอนเทนต์สำคัญที่จะดึงดูดผู้ชมทีวี สร้างเรตติ้งและรายได้ให้กับช่องเป็นกอบเป็นกำ ต้นทุนการที่จะได้มาออกอากาศก็คงแพงขึ้นไปอีก งบประมาณ CSR ของภาครัฐที่เคยหลงมาพอจะจุนเจือเงินเดือนพนักงานได้บ้าง ก็คงกระเด็นมายากขึ้นเพราะมีแนวโน้มว่าจะถูกช่องโทรทัศน์ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาปาดหน้าไป แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่า “เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด” ก็ไม่รู้จะเอ่ยคำใดมาทดแทน
ก็ได้แต่แอบมองโลกในแง่ดี หวังไว้ว่าช่องสาธารณะด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จองหมายเลข 7 จะเป็นสีสันใหม่ของวงการทีวี
และถ้าจะให้ดีจริงก็ต้องทำให้ช่องใหม่นี้เป็นที่พึ่งของสมาคมกีฬาฯขนาดเล็ก ให้ได้มีโอกาสเงยหน้าอ้าปากกันบ้าง ต้องทำดี บริหารงานด้วยความเป็นกลางอย่างสม่ำเสมอ อย่าแอบเอาช่องไปประเคนให้กับหน่วยงานใดเข้ามาหาผลประโยชน์ที่ไม่เหมาะควร
แต่ในความจริง หากไม่แสร้งทำโลกสวย คงมีหลายช่องที่แอบกลืนเลือด ปาดน้ำตาที่ตกในกันบ้าง เมื่อแวดวงทีวีดิจิทัลการบริหารและดำเนินงานทางธุรกิจปัจจุบันก็อยู่ยากขึ้นทุกที จู่ ๆ รัฐยังจะส่งนกกระสาร่างใหญ่แขนขาแข็งแรงลงมาในบ่อน้ำที่แทบจะแห้งเหือด แล้วกบน้อยใหญ่ 17 ตัว ที่ยังต้องแย่งอาหารที่มีจำกัดเพื่อการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันจะร้องเพลงอะไรปลอบใจตนเองกันดี
