มาแรง “พี่ฉอด” Change 2561 บุกตลาดละครออนแอร์ ทั้งสัปดาห์

ละคร-ซีรีส์ วิเคราะห์เจาะเรตติง

สมรภูมิการแข่งขันของทีวีดิจิทัลครึ่งปีหลัง บรรดาช่องทีวีดิจิทัลที่เดินหน้าสู้ต่อ โดยเฉพาะจาก 15 ช่องธุรกิจพยายามงัดกลยุทธ์เด็ด จัดคอนเทนต์แข็งแรงเรียกเรตติ้งมาลงผัง จัดเต็มกันมากขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์

ละครไทย ที่เป็นคอนเทนต์โดนใจคนไทยมายาวนานเรียกได้ว่ามีพลังดึงดูดเรตติ้งที่ได้ผลชัดเจนมากที่สุด

การที่หลายช่องทีวีดิจิทัล หันมาทุ่มลงทุนผลิตละครกันมากขึ้น เป็นการโอกาสทองของทั้งบรรดาดารานักแสดง ผู้กำกับ รวมถึงผู้จัดละครอิสระได้แสดงศักยภาพกันกอบโกยรายได้กันอย่างเต็มที่ ผู้จัดละครที่มีผลงาน ฝีมือดี ก็จะได้รับการทาบทามจากหลายช่องให้เข้ามาร่วมผลิตละคร  หนึ่งในผู้ผลิตคอนเทนต์ที่โดดเด่น แข็งแรงสามารถสร้างสรรค์ผลิตละครข้ามช่องได้หลากหลายแนว ได้แก่ ค่าย Change 2561 ที่บริหารโดย “พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา”

“พี่ฉอด” ผู้พลิกบทบาทจากเจ้าแม่วงการวิทยุ วงการคอนเสิร์ต มาบริหารช่อง GMM25 ก่อนที่จะเบนเข็มมาเดินหน้าลุยในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ โดยเฉพาะละครเต็มตัว  ด้วยการบริหารบริษัท Change 2561 จัดวางตนเองเป็นผู้ผลิตอิสระที่รับงานผลิตละครได้ทุกช่องในรูปแบบที่ร่วมมือแบบพันธมิตรทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนที่กำลังเล็งหาผู้ผลิตละครเจ้าใหญ่ของไทยไปเปิดตลาดละครไทยในกลุ่มคนจีน

นับไปนับมาเฉพาะในปี 2562 บริษัท Change 2561 ของ “พี่ฉอด” มีละครหลากหลายกับ 4 ช่องทีวีดิจิทัล โดยออกอากาศไปแล้ว 3 ช่องได้แก่ ช่อง One ช่อง GMM25 และช่องอมรินทร์ทีวี และกำลังจะมีละครออกอากาศในปีนี้ที่ช่องพีพีทีวีอีกด้วย น่าจะเป็นผู้ผลิตละครรายเดียวในวงการทีวีดิจิทัล ที่มีละครออนแอร์มากที่สุดในปีนี้

สำหรับละครที่กำลังออกอากาศในขณะนี้ มีทั้งหมด 3 เรื่อง ใน 3 ช่อง เป็นแนวละครที่มีความแตกต่างกันชัดเจนตามบุคลิกของแต่ละช่อง พอจะเรียกได้ว่า Change 2561 กลายเป็นค่ายผู้ผลิต ที่มีผลงานละครออกอากาศ มากที่สุดเกือบทั้งสัปดาห์ในขณะนี้

เริ่มจาก “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ละครที่กำลังออกอากาศ ทางช่อง One เป็นหนึ่งในละครฮิตของช่องวัน แม้ว่าจะออนแอร์ในวันจันทร์-อังคาร ช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ช่วงเวลาแข่งเดือดของทุกช่อง โดยเฉพาะสมรภูมิคืนวันจันทร์  ที่ปัจจุบันมีทั้งละคร “หัวใจลูกผู้ชาย” จากช่อง 7 , “กลิ่นกาสะลอง” จากช่อง 3 และยังต้องเจอกับรายการวาไรตี้ “ 10Fight10” ที่จับศิลปินชายมาต่อยมวยกัน ทุกเรื่องล้วนเป็นของแข็งจากช่องคู่แข่ง

แต่ความแปลกของเนื้อหาและการจัดวางนักแสดง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” เป็นที่กล่าวถึง ดึงเรตติ้งมาได้เป็นที่น่าพอใจ  “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” จากนวนิยายขายดีของ “ทมยันตี” แต่งขึ้นตั้งแต่ปี 2531 ไม่เคยมีใครกล้านำมาสร้างเป็นละครมาก่อน โครงเรื่องแปลกใหม่ อีกทั้งยังได้ “ใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก” มาแสดงเป็นสาวประเภทสองที่ผ่านการแปลงเพศมาแล้ว ใส่ความทันสมัยของปัจจุบันเข้าไป กลายเป็นพล็อตละครที่น่าสนใจ และน่าติดตาม จนล่าสุดมียอดผู้ชมย้อนหลังทาง LINE TV สูงถึง 150 ล้านวิว ภายใน 1 เดือน

ในขณะที่เรตติ้งยอดผู้ชมทางช่องทางทีวี ก็อยู่ในระดับเฉลี่ย 2.190 จากการออกอากาศมาแล้ว 13 ตอน เท่าที่ออกอากาศมา เคยทำเรตติ้งขึ้นไปสูงถึง 2.630 เป็นหนึ่งในละครที่เรียกกระแสผู้ชมมากที่สุดของช่องวันในปีนี้

“สามีสีทอง” จากนวนิยาย “ภมร” ของกฤษณา อโศกสิน แฉพฤติกรรมของบรรดาสามี เรื่องราวของ 3 ครอบครัว 3 คู่ 3 แบบ ตีแผ่สังคมครอบครัว เปิดตลาดช่วงเวลาละครให้กับช่องอมรินทร์เป็นครั้งแรก จัดวางไว้หลังรายการ “ทุบโต๊ะข่าว เสาร์ –อาทิตย์” ช่วยเป็นแรงส่งทำให้ 4 ตอนแรกที่ออกอากาศไปมีเรตติ้งเฉลี่ย 0.768 เรียกได้ว่าไปได้สวยสำหรับช่องน้องใหม่ ที่จัดผังลงละครครั้งแรก

ตกกระได หัวใจพลอยโจน” แนวโรแมนติก คอเมดี้ นิยายของ “กนกวลี พจนปกรณ์” ทางช่อง GMM 25  คืนวันพฤหัส-ศุกร์ เน้นความสนุก อารมณ์ขันในบรรยากาศของบ้านๆ ทำเรตติ้งรวมเฉลี่ยไว้ที่ 0.479

นอกจากนี้ ยังมีละครอีก 2 เรื่องที่ออกอากาศไปแล้วได้แก่  “เมียน้อย” และ “นางมาร” ทางช่อง GMM25 ทั้งคู่ แต่ “เมียน้อย” ได้ “นิรุตติ์ ศิริจรรยา” รับบท “ท่านผู้มีอำนาจ” ที่แสนอบอุ่นนุ่มนวล ได้รับความสนใจเรียกกระแสมากว่า ทำเรตติ้งเฉลี่ยไว้ที่ 0.910 ส่วน “นางมาร” ละครแนวพีเรียด ดราม่า วังวนของการเกิดและดับ และกรรมของความโลภ เป็นชุดที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 0.221 แต่ก็สูงกว่าเรตติ้งเฉลี่ยของช่อง GMM25 ที่อยู่ในระดับ 0.1

ส่วนละครใหม่ที่เตรียมตัวออนแอร์ในช่องพีพีทีวีในปีนี้ “กลับไปสู่วันฝัน” ละครแนวโรแมนติกแฟนตาซี เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่หมดหวังกับการใช้ชีวิตตัวคนเดียวบนโลก แต่เธอได้พรจากแหวนวิเศษที่ทำให้ย้อนเวลากลับไปช่วงชีวิตวัยเยาว์ วันเวลาแห่งความฝันที่ผ่านเลยไป จะได้กลับมาอีกครั้ง

แบบนี้คงต้องเรียกว่า “ผู้ผลิตงานชุก บุกได้ทุกช่อง” แค่ผลงานปีนี้ก็ปาเข้าไป 5 เรื่องแล้ว มีผลงานวัดจากเรตติ้งของแต่ละช่องอยู่ในระดับต้นๆ และที่มีคิวออนแอร์ต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 3 เรื่อง “เนื้อใน” ช่อง GMM25 และ  “กลับไปสู่วันฝัน ”ช่องพีพีทีวี และ “รองเท้านารี” ช่องอมรินทร์ทีวี ยังไม่รวม Club Friday เดอะ ซีรีส์ ซีรีส์ชีวิตรัก อิงจากเรื่องจริง สะท้อนความจริงในสังคม มีแฟนประจำติดตามเหนียวแน่น ที่พึ่งได้รางวัลละครชุดยอดเยี่ยม รางวัลนาฏราชมา 5 ปีติด ออนแอร์ประจำทุกวันเสาร์

งานละครเป็นสิ่งท้าทาย แต่พี่ฉอดก็สามารถฟันฝ่านำพา Change 2561  มาสู่จุดที่น่าพอใจได้  คงต้องให้ระยะทางและกาลเวลาพิสูจน์ความแข็งแกร่ง ของพี่ฉอดและ Change 2561  ว่าจะก้าวไปข้างหน้าสร้างความแปลกใหม่ให้วงการละครและสร้างความพึงพอใจให้แฟนละครได้เพียงไร

Tagged