ช่อง 7 สะเทือน “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ย้ายช่อง ไปพีพีทีวีต้นปีหน้า

เกาะติดจอ

การแข่งขันในวงการทีวีดิจิทัลเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ รายการดังๆหลายรายการ มีการโยกย้ายช่องมากขึ้น เมื่อช่องเศรษฐีทุนหนา “พีพีทีวี” ได้ดีลกับเจเอสแอล ยกรายการ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” จากช่อง 7 มาออกอากาศในช่องพีพีทีวีเรียบร้อยแล้ว โดยวางผังไว้ออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ต้นปีหน้า

 

การย้ายช่องของรายการ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” จากช่อง 7 ไปพีพีทีวี สะท้อนความเคลื่อนไหวของบรรดาผู้ผลิตรายการ ที่นอกจากต้องแข่งขันกันผลิตคอนเทนต์คุณภาพดีแล้ว ยังต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่มีต่อเม็ดเงินโฆษณาที่จะมาลงในรายการทีวีต่างๆด้วย

 

สำหรับแชมป์เรตติ้งอย่างช่อง 7 แล้ว การย้ายออกของรายการใหญ่ ที่ทำเรตติ้งในช่วงดึกของวันอังคาร เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ยากที่จะหารายการมาทดแทน ที่จะสามารถสร้างเรตติ้งให้กับช่อง 7 ได้เหมือนกับ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยรายการเกิน 2 มาตลอด ทั้งๆที่ออกอากาศในช่วงดึก 22.30 น.ทุกวันอังคาร  โดย 2 ตอนล่าสุดวันที่ 6 พ.ย. และ 13 พ.ย. มีเรตติ้งอยู่ที่ 2.035  และ 2.183

 

ผังรายการช่วงดึกของช่อง 7 ในปัจจุบัน มีรายการที่อยู่ในรูปแบบเช่าเวลาเพียง 2 รายการคือ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ออกอากาศในวันอังคาร และ” เรื่องจริงผ่านจอ”ของค่ายกันตนา ในวันพฤหัส

ส่วนที่เหลือนั้น วันจันทร์ เป็นหนังเกาหลี, วันพุธ รายการ Spotlight on TV ที่เป็นรายการของทางช่องเอง รวมถึงรายการวันศุกร์ สดๆ บทไม่มี on TV ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์นั้นเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่ารายการภาคดึก เริ่มหดหายไปทีละรายการแล้ว

 

ที่ผ่านมาช่อง 7 ใช้วิธีการใส่หนัง ซีรี่ส์ต่างประเทศลงจอแทนในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็คงทำได้แค่เพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวแล้ว จะดึงรายการอะไรมาลงผังทดแทนและสร้างเรตติ้งได้สูงเท่ากับ “กิ๊ก ดู๋” อีก คงยากมาก

 

สถานการณ์ของช่อง 7 ตอนนี้เรตติ้งรายการละครไพรม์ไทม์ ก็ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย ต้องพึ่งพาละครเย็น ที่กลายเป็นรายการทำเรตติ้งสูงสุดของช่องในแต่ละวันไปแล้ว การขาดรายการแม่เหล็กไปอีกหนึ่งรายการ ย่อมกระทบต่อเรตติ้งโดยรวมของช่องในปีหน้าอีกอย่างแน่นอน

 

ในขณะเดียวกัน ในมุมของผู้ผลิตรายการ หากรายการใหญ่ย้ายช่อง ไปอยู่ในรูปแบบที่การันตีไม่ขาดทุน ก็อาจจะมีรายการอื่นๆ ทยอยย้ายตามไปอีกหลายรายการได้

 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ เจเอสแอลตัดสินใจนำรายการ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ออกมาอยู่ช่องพีพีทีวี เนื่องจากเป็นรายการดึก หาโฆษณาได้ยากมากขึ้น แม้ว่าจะมีเรตติ้งสูง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยากลำบากมากขึ้น มีรายได้ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย ค่าเช่าเวลากับช่อง 7 มีราคาสูง ค่าผลิตรายการก็สูงขึ้น

 

เนื่องจากเป็นรายการหลักในผังรายการดึกของช่อง 7 ที่มีเรตติ้งสูงสุด “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” เป็นรายการที่ช่อง 7 ได้พยายามเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับเจเอสแอล โดยเป็นรายการเดียวในช่วงนี้ ที่จัดให้ออกอากาศในเวลา 22.30 น. เร็วกว่ารายการอื่นที่จะออนแอร์เวลา 23.00น. เพื่อช่วยให้หาโฆษณาได้ง่ายขึ้น แต่ก็ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้ในที่สุด เดินตามรอย The Voice Thailand ที่ผละจากช่อง 3 เข้าพีพีทีวีไปก่อนแล้วด้วยเหตุผลเดียวกัน

 

ในขณะที่พีพีทีวี ให้ข้อเสนอในรูปแบบจ้างผลิตรายการ และแบ่งส่วนแบ่งรายได้จากโฆษณาด้วย ที่เป็นการการันตีว่าผู้ผลิตรายการไม่ขาดทุน แต่ก็ต้องแลกกับความนิยมและเรตติ้งที่อาจจะไม่สูงเท่ากับที่เคยอยู่ที่ช่อง 7 และที่สำคัญคือ ผังรายการใหม่ในช่องพีพีทีวี จะออนแอร์ในช่วงไพรม์ไทม์ของวันทำงานด้วย

 

เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 7 ในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.846 เป็นอันดับ 1  ในขณะที่ช่องพีพีทีวี มีเรตติ้งอยู่ที่ 0.149 อยู่ในอันดับ 13

 

เมื่อต้นเดือนม.ค.ปีนี้ เจเอสแอลเคยประกาศยุบรายการ “จันทร์พันดาว” ที่เคยออกอากาศในช่วงดึกของวันจันทร์ ทางช่อง 7 มาแล้ว ทั้งๆที่เป็นหนึ่งในรายการหลักของบริษัท ด้วยเหตุผลหลักคือ รายการดึก โฆษณาไม่ลง ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย

 

อย่างไรก็ตาม รายการ “กิ๊ก ดู๋ “มีออกอากาศ 2 ช่วงในช่อง 7 คือ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ในดึกวันอังคาร และยังมี “กิ๊ก ดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน” ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลาบ่าย 4 โมงเย็น ซึ่งคาดว่าคงไปทั้ง 2 รายการ

 

คงต้องรอดูฝีมือของผู้บริหารช่อง 7 ว่าจะแก้สถานการณ์นี้อย่างไร จะมีรายการอะไรมาพลิกเกม ฟื้นเรตติ้งทดแทนได้หรือไม่

Tagged