เรตติ้งทีวีดิจิทัลเดือนมี.ค.63 : ช่องสายกีฬา งดถ่ายสด “มวยไทย” เรตติ้งลด

เรตติ้งประจำเดือน

เรตติ้งช่องทีวีดิจิทัลประจำเดือนมี.ค.63 แสดงให้เห็นผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีต่อวงการทีวี โดยในเดือนมี.ค.นั้น รายการถ่ายทอดสดรายการกีฬาต่างๆในประเทศต้องยกเลิก โดยเฉพาะรายการถ่ายทอดสดมวยไทย ที่มีบางสนามจัดการแข่งขันจนกลายเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปในวงกว้าง

ช่องที่มีรายการกีฬาเป็นกลุ่มรายการหลัก ที่ช่วยดันเรตติ้งช่องได้แก่ช่อง 9 ช่อง 8 ช่องอมรินทร์ทีวี ช่อง PPTV และช่อง True4U มีเรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงกันถ้วนหน้า

ช่อง 9 มีรายการถ่ายทอดสดมวยไทยถึง 6 วัน การต้องปรับรายการนำเทปรายการเดิมมาออนแอร์ มีผลต่อภาพรวมเรตติ้งช่องทั้งหมด แต่ช่อง 9 ยังมีรายการข่าว เป็นรายการหลักที่สำคัญรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี เรตติ้งช่องจึงตกไม่มากนัก จากเรตติ้งเฉลี่ย 0.190 ในเดือนก.พ.มาอยู่ที่ 0.185 ในเดือนมี.ค. ยังคงรักษาอันดับ 10 ไว้ได้

ในขณะที่ช่อง 8 รายการมวยจัดวางไว้ในในวันเสาร์ อาทิตย์ จึงต้องพึ่งพากลุ่มคอนเทนต์บันเทิง และรายการข่าว ซึ่งมีรายการที่ได้รับความนิยมมากสุดเป็นละคร แต่ผลจากโควิด-19 ส่งผลให้มีปัญหาในการผลิตละครให้ต่อเนื่อง ทำให้ต้องจัดละครเก่ามารีรันในเดือนเม.ย. สำหรับละครที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 8 ในเดือนมี.ค.นี้ ได้แก่ละคร “ปอบผีเจ้า” ส่วนเรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงจาก 0.394 เป็น 0.362 อยู่ในอันดับ 8 เช่นเดิม

ช่อง PPTV และช่อง True4U รายการถ่ายทอดสดกีฬา ทั้งในและต่างประเทศงดหมด มีผลทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงเล็กน้อย โดยช่อง PPTV ตกจากอันดับ 11 มาอยู่อันดับ 12 หลังช่อง GMM25 และช่อง True4U จากอันดับ 13 มาอยู่อันดับ 14 ตามหลังช่อง ThaiPBS ที่มีรายการข่าวนำเด่นขึ้นมา

แม้กระทั่งช่องอมรินทร์ทีวี ที่มีการถ่ายทอดสดมวยไทยเช่นกัน มีเรตติ้งเดือนมี.ค.ลดลงจาก 0.494 มาอยู่ที่ 0.438 แต่ยังมีรายการข่าว “ทุบโต๊ะข่าว”เป็นรายการหลัก พร้อมกับละคร ยังช่วยทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในกลุ่มช่อง TOP10 มี 6 ช่องแรกที่มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.63 โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการ Work from home ตามแคมเปญ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ ทำให้รายการที่ออนแอร์ระหว่างวัน มีเรตติ้งสูงขึ้นในหลายๆช่อง

ช่องอันดับ 1 ช่อง 7 มีเรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1.787 มาอยู่ที่ 1.957 โดยมีละคร “สะใภ้อิมพอร์ต” ที่เป็นรายการที่เรตติ้งสูงสุดของช่อง มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 6.806 มีเรตติ้งตอนจบอยู่ที่ 8.513

ช่อง 3 อยู่ในอันดับ 2 เรตติ้งเฉลี่ย 1.295  เพิ่มจาก 1.181 ได้แรงส่งจากละคร “ทุ่งเสน่หา” ที่เพิ่งจบลงไป มีเรตติ้งตอนจบ 5.709 และมีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 3.947 และยังมีละครรีรันเช้า “วนิดา” ที่ทำเรตติ้งได้เกินกว่า 2 แม้ว่าจะออนแอร์ในช่วงเช้าที่มีผู้ชมน้อยกว่าช่วงเย็นก็ตาม แต่ทำเรตติ้งได้สูงกว่าละครใหม่ในวันที่ออกอากาศได้ด้วย

ช่อง Mono ยังอยู่ในอันดับ 3 รักษาระยะห่างจากเวิร์คพอยท์ได้มากขึ้น ในขณะที่เวิร์คพอยท์ ในอันดับ 4 แม้มีเรตติ้งเฉลี่ยช่องเพิ่มขึ้นจาก 0.625 มาอยู่ที่ 0.653 แต่ก็มีช่อง One ในอันดับ 5 ทำเรตติ้งไล่ขึ้นมาใกล้มากขึ้น จาก 0.567 มาอยู่ที่ 0.644

ในขณะที่ไทยรัฐทีวี ในเดือนนี้มีการปรับผังรายการ ช่วงเย็น ขยายการออกอากาศ “ไทยรัฐนิวส์โชว์”เข้ามาในช่วงค่ำ ให้ต่อเนื่องไปยังรายการหลัง 2 ทุ่ม ทำให้เรตติ้งดีขึ้น นำคู่แข่งได้สูงขึ้น ทำให้ช่องไทยรัฐทีวีมีเรตติ้งเพิ่มขึ้นจาก 0.547 มาอยู่ที่ 0.583 อยู่ในอันดับ 6

สำหรับช่องนอกกลุ่ม TOP10  ช่อง ThaiPBS เป็นช่องที่มีผลงานที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้ จากรายการข่าวที่มีผู้ชมสนใจมากขึ้น มีเรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มจาก 0.101 อันดับ 13 มาอยู่ที่ 0.106 ในอันดับ 12 แซงหน้าช่อง True4U

ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.เป็นต้นมา ผู้คนเริ่ม Work from home กันมากขึ้น ตามมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ มีผลต่อยอดผู้ชมทีวีมีมากขึ้น คาดว่าจะมีผลต่อเรตติ้งทีวีดิจิทัลทุกช่องในเดือนต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้มีเรตติ้งที่ดีขึ้น แต่สถานการณ์ทางภาวะเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาหลักกับทั้งประเทศ ต้องเอาใจช่วยทุกคนให้อดทน ฝ่าฟันวิกฤต ผ่านพ้นไปด้วยกัน

Tagged