ครึ่งปีแรกของปี 2562 ผ่านไปแล้ว ยังคงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของวงการทีวีดิจิทัล จากสภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขันของธุรกิจทีวีดิจิทัลที่มีอยู่มากช่องด้วยกันเอง และทีวีออนไลน์ที่แย่งชิงตลาดโฆษณาทีวีดิจิทัลไป ผลงานความนิยมที่วัดจากเรตติ้งของนีลเส็นในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มช่อง 5 อันดับแรกของปี 2561 มีเรตติ้งลดลงทั้งหมดเมื่อเทียบกับเรตติ้งเฉลี่ยของครึ่งปีแรกในปี 2562 ที่ผ่านมา
ส่วนช่องที่เติบโตขึ้นมาได้แก่ ช่องวัน ไทยรัฐทีวี และพีพีทีวี สำหรับกลุ่มช่อง TOP 10 ที่สามารถเพิ่มอันดับขึ้นมาได้ ในขณะที่ช่องในกลุ่มช่องข่าว เป็นการเติบโตของช่องเนชั่นทีวีและวอยซ์ทีวี
สำหรับกลุ่ม TOP 5 ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2562 มีการเปลี่ยนแปลงจากปี 2561 เมื่อช่องวัน สามารถเอาชนะช่อง 8 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ได้ เป็นช่องที่มีเรตติ้งเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มนี้จากเรตติ้งเฉลี่ย 0.522 ในอันดับ 6 ของปี 2561 มาได้เรตติ้งเฉลี่ยที่ 0.543 ที่อันดับ 5 มาได้ด้วยผลงานจากชุดละครของช่อง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
ส่วนช่อง 8 เรตติ้งลด อันดับตกลงถึง 2 อันดับ จากอันดับ 5 ในปี 2561 เรตติ้งเฉลี่ย 0.589 ไปอยู่ที่อันดับ 7 ได้เรตติ้งเฉลี่ย 6 เดือนนี้ที่ 0.309 เท่านั้น สาเหตุจากความนิยมในซีรีส์อินเดีย ที่เป็นคอนเทนต์หลักของช่อง 8 ได้รับความนิยมลดลงมาในหมู่ผู้ชม
ช่องอันดับ 1-4 ยังคงเป็นช่อง 7 ช่อง 3 ช่องโมโน และเวิร์คพอยท์เช่นเดิม แต่เรตติ้งเฉลี่ยรวมของทั้ง 4 ช่องลดลง โดยช่อง 3 เป็นช่องที่มีเรตติ้งลดลงมากที่สุด เพราะปีที่แล้ว มีละคร “บุพเพสันนิวาส” เป็นตัวชูโรงทำเรตติ้งสูงสุดของยุคทีวีดิจิทัล ด้วยเรตติ้งตอนจบ 18.633 และเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 13.384 แต่ปีนี้ช่อง 3 มีเพียงละคร “กรงกรรม” ที่ทำเรตติ้งสูงสุดในตอนจบไว้ที่ 11.136 และได้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 6.256
เวิร์คพอยท์เป็นอีกช่องในกลุ่ม TOP 5 ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยลดลงชัดเจน จากการที่รายการใหม่ๆที่จัดลงผังในช่วงต้นปี ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพิ่งจะมาได้รายการ “10 Fight 10” ที่จัดดารา เซเลปมาชกมวย ที่ลงจอในเดือนมิ.ย.นี้ มาสร้างกระแสของช่องได้ เรตติ้งเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ของเวิร์คพอยท์จึงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จาก 0.769 มาอยู่ที่ 0.798 แต่ก็ยังอยู่ในอันดับ 4 เช่นเดิม
ไทยรัฐทีวี เรตติ้งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากรายการข่าวของช่อง ขึ้นจากอันดับ 7 เรตติ้งเฉลี่ย 0.338 มาอยู่ที่อันดับ 6 เรตติ้งเฉลี่ย 0.426 ช่อง 3SD หรือช่อง 28 เป็นอีกช่องที่เรตติ้งดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในอันดับ 9 เหมือนเดิม
ภาพรวมครึ่งปี พีพีทีวี สามารถเข้ามาอยู่ในอันดับ 10 ได้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยขึ้นจากอันดับ 11 ในปี 2561 เนื่องจากจัดหนักจัดเต็มทั้งรายการถ่ายทอดสดกีฬา และลงทุนดึงรายการบันเทิงจากช่องใหญ่มาลงผังเสริมผังรายการที่หวังดึงกลุ่มผู้ชมผู้หญิง รวมถึงการทุ่มทุนกับการผลิตละครไทย
กลุ่มช่องข่าวที่มีผลงานดี ได้แก่ช่องเนชั่นทีวี และวอยซ์ทีวี ที่ได้กระแสข่าวการเลือกตั้งใหญ่ ข่าวการเมือง สร้างกระแสข่าวร้อนแรง จากทั้ง 2 ช่องที่มีจุดยืนแตกต่างกันชัดเจน แต่ได้รับเรตติ้งมาแรงจากผู้ชมในกลุ่มเผป้าหมายช่องที่แตกต่างกัน
โดยที่เนชั่นทีวีขึ้นมาจากอันดับ15 เรตติ้งเฉลี่ย 0.098 มาอยู่ที่อันดับ12 เรตติ้งเฉลี่ย 0.181 ส่วนวอยซ์ทีวี จากอันดับ 23 เรตติ้งเฉลี่ย 0.022 มาอยู่ที่อันดับ 16 เรตติ้งเฉลี่ย 0.087 อย่างไรก็ตามวอยซ์ทีวี เป็น 1 ใน 7 ช่องที่ขอคืนช่องทีวีดิจิทัลต่อกสทช. และเลิกสัญญาจัดทำระบบเรตติ้งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อไปจึงจะไม่เห็นเรตติ้งช่อง และรายการของวอยซ์ทีวีในช่องทางดิจิทัลอีกแล้ว แต่จะไปอยู่ในระบบทีวีออนไลน์แทน
หากดูความนิยมในกลุ่มช่องที่คืนช่อง ทั้งสปริงนิวส์ สปริง 26 ไบรท์ทีวี วอยซ์ทีวี MCOT Family และช่อง 3SD และ 3 Family นั้น จะพบว่าช่อง 3SD เป็นช่องที่อยู่ในอันดับสูงสุดของช่องที่ขอคืนใบอนุญาต ทั้งๆที่มีแต่ละครรีรันเป็นอาวุธหลักของช่อง ถือเป็นหนึ่งในกรณีที่น่าศึกษา เพราะละครที่ลงทุนสูง แม้ว่ากลับมารีรันอีกกี่ครั้ง ก็ดูเหมือนการันตีเรตติ้งแต่ละช่วงเวลาได้ชัดเจน
ในครึ่งปีหลัง 7 ช่องจะจากไป เหลือเพียง 15 ช่องทีวีดิจิทัลประเภทธุรกิจ และ 4 ช่องทีวีดิจิทัลของภาครัฐ รวมเป็น 19 ช่องเท่านั้น แน่นอนว่าอันดับของช่องตั้งแต่อันดับ 9 เป็นต้นไป จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ใครจะเข้ามาติดกลุ่ม TOP 10 ชุดใหม่ และน่าจะมีผลต่อเรตติ้งความนิยมของแต่ละช่องด้วยเช่นกัน ต้องลุ้น และสู้ๆกันต่อไป