ไตรมาส 3 ปี 63 อสมท ขาดทุนลดลงเหลือ 106 ลบ.

ผลประกอบการ

อสมท ไตรมาส 3 ปี 63 รายได้รวม 402 ล้านบาท ขาดทุน 106 ล้านบาท โครงการลดพนักงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรได้ 20  %

นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการ และ รักษาการในตำแหน่ง กก.ผอ.ใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า “อสมท รายงานงบการเงินในไตรมาส 3 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีผลขาดทุนสำหรับงวดในไตรมาสที่ 3 จำนวน 106 ล้านบาท โดยคิดเป็นการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น 32%          เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วที่ขาดทุน 156 ล้านบาท จากรายได้รวม 402 ล้านบาท ลดลง 16 % จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วมีรายได้รวมอยู่ที่ 477 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในงวดเก้าเดือนของปี 2563ขาดทุนจำนวน 1,168 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ภาคธุรกิจต้องควบคุมค่าใช้จ่ายการใช้งบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2563  อสมท มีรายได้จำนวน 1,086 ล้านบาท ลดลง 24% จาก 1,431 ล้านบาท ในรอบ 9 เดือนของปี 2562

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563 ธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจวิทยุยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สามารถสร้างรายได้สูงสุดให้กับ อสมท ในสัดส่วน 62% ในขณะที่ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล (BNO) มีสัดส่วนรายได้สูงเป็นลำดับสองรองจากธุรกิจโทรทัศน์

ธุรกิจโทรทัศน์ มีรายได้ในช่วงเก้าเดือนแรกจำนวน 314 ล้านบาท ลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่สามจำนวน 131 ล้านบาท ลดลง 14% จาก 152 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ในช่วงเก้าเดือนแรกจำนวน 345 ล้านบาท ลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นรายได้ในไตรมาสที่สาม จำนวน 115 ล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่มีรายได้ 184 ล้านบาท

ในไตรมาสที่สาม คลื่นวิทยุทั้งส่วนกลางและภูมิภาค มีรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคลื่นลูกทุ่ง    มหานคร FM 95 MHz. ยังแสดงผลงานได้โดดเด่นสามารถทำรายได้สูงสุดในคลื่นวิทยุของ อสมท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา สำหรับคลื่นวิทยุอื่นๆ เช่น คลื่นความคิด FM 96.5 MHz, Mellow FM 97.5 MHz, Active Radio FM 99 MHz คลื่นข่าว FM 100.5 MHz และคลื่น MET 107 MHz รักษาฐานผู้ฟังและกลุ่มลูกค้าด้วยกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ เช่น การใช้เทคโนโลยีสื่อสารผ่านโปรแกรม Zoom รวมถึงการจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้าผู้สนับสนุนรายการและผู้ฟัง    

ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (BNO) และให้เช่าช่องรายการบนดาวเทียมในระบบ C-Band มีรายได้ในเก้าเดือนแรกปี 2563 จำนวน 326 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.รายได้ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัล  และ 2. รายได้จากธุรกิจการให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม โดยเป็นรายได้ใน   ไตรมาสที่สามปี 2563 จำนวน 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน  

 ธุรกิจดิจิทัล  มีรายได้ในเก้าเดือนแรกปี 2563 จำนวน 35 ล้านบาท เป็นรายได้ในไตรมาสที่ 3 จำนวน 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันปี 2562 ที่มีรายได้เพียง 8 ล้านบาท โดยรายได้ธุรกิจดิจิทัล ประกอบด้วยรายได้จาก เว็บไซต์ www.mcot.net หรือแพลตฟอร์มโซเชียลที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น Youtube และ Facebook นอกจากนี้        อสมท ได้เปิดตัวบริการใหม่ทางด้านดิจิทัล รวมถึงการให้บริการ Digital Solution แก่หน่วยงานต่างๆ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ปัจจุบัน อสมท ได้ปรับปรุงทั้งเชิงเทคนิค และ Content เพื่อให้สามารถเพิ่มอัตราการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมเร่งพัฒนาและต่อยอดใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการสร้างรายได้จากการนำเนื้อหาจากพันธมิตร และ Content ของบริษัทไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น และพร้อมสนับสนุนงานด้านดิจิทัลให้กับหน่วยงานต่างๆ

นอกจากนี้ อสมท ยังมีแนวทางในการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้กับองค์กร โดยฝ่ายบริหารพยายามเร่งสร้างแหล่งรายได้ใหม่ทั้งจากธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาสินทรัพย์ที่ดินให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจ โดยล่าสุด อสมท   อยู่ระหว่างการเปิดรับข้อเสนอสำหรับการพัฒนาโครงการบนที่ดิน 50 ไร่ ย่านรัชดา จากนักลงทุนและบุคคล    ที่สนใจ เพื่อทดแทนรายได้กิจการสัมปทานที่สิ้นสุดลงตั้งแต่ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจหลักเช่นโทรทัศน์และวิทยุ ให้ผลิตเนื้อหารายการที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นประโยชน์ต่อสังคม  สำหรับโครงการร่วมใจจากองค์กร ประจำปี 2563 (Mutual Separation Plan : MSP) ซึ่ง อสมท ได้เริ่มดำเนินการมาแล้วนั้น    ผลจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะทำให้ อสมท สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรกว่า 20         %       จากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรในปี 2563 ซึ่งจะมีผลในปี 2564 เป็นต้นไป

 

Tagged