“ทีวีพูล” คว้าลิขสิทธิ์ “ซีเกมส์ 2019” จัดลง 5 ช่องดั้งเดิม

ถ่ายทอดสด รายการข่าว เกาะติดจอ

ในที่สุดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปลายปีนี้ “ทีวีพูล” หรือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้ลิขสิทธิ์ไปตามความคาดหมาย และจัดให้ 5 ช่องทีวีดิจิทัลดั้งเดิม ช่อง 3, 5, 7, 9 และช่อง NBT เวียนถ่ายทอดสด

แหล่งข่าวในวงการกีฬายืนยันว่า ลิขสิทธิ์ของการถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ตกอยู่ในมือทีวีพูล และจะให้เฉพาะช่องสมาชิกทีวีพูล ได้ทำการถ่ายทอดสดเท่านั้น แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความพยายามของช่องทีวีดิจิทัลรายใหม่บางช่องพยายามติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์นี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

กีฬาซีเกมส์ เป็นมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่คนไทย เมื่อมีการถ่ายทอดสดทางทีวี เมื่อเทียบกับมหกรรมการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ทั้งเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิคเกมส์ ด้วยเหตุผลสำคัญที่ เป็นรายการที่นักกีฬาไทยมีความหวังเหรียญทองมากที่สุด เกมการแข่งขันสูสี ดูแล้วลุ้นสนุก มีหวังเหรียญในแทบทุกชนิดกีฬา ทำให้ลิขสิทธิ์ของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์เป็นที่หมายตาของบรรดาช่องทีวีดิจิทัลทั้งหมด

เรตติ้งทางทีวีจากการถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ก็ยังสูงกว่ามหกรรมกีฬาประเภทอื่นๆ เช่นการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 29 ในปี 2560 ทีมชาติไทย เอาชนะเจ้าภาพ มาเลเซีย ครองแชมป์ 16 สมัยฟุตบอลซีเกมส์ สามารถทำเรตติ้งได้สูงถึง 8.186

ผลงานของนักกีฬาไทยในครั้งที่ผ่านมา ในยุคหลัง ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าเหรียญทองมากที่สุด แต่ในการแข่งขันที่มาเลเซีย ได้ 72 เหรียญทอง อยู่ในอันดับ 2 แพ้เจ้าภาพ ที่ได้ไป 145 เหรียญทอง ซึ่งดูเหมือนเป็นปกติไปแล้วของการแข่งขันกีฬาระดับประเทศ ที่ประเทศเจ้าภาพ มักจะได้เปรียบในการคว้าเหรียญทุกครั้งไป เนื่องจากแต่ละประเทศเจ้าภาพมักจะบรรจุกีฬาที่ประเทศตนมีความถนัดเป็นพิเศษเข้าไปในการแข่งขัน เพื่อหวังโกยเหรียญทอง เช่น ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพในปีนี้ จัดให้มีการแข่งขันทั้งประเทศทีม 5 คน และทีม 3 คน ทั้งนี้การจัดการแข่งขันในปีนี้ จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 11 ธ.ค.2562

ลิขสิทธิ์รายการกีฬาซีเกมส์ เป็นที่ต้องการของบรรดาช่องทีวีดิจิทัลช่องใหม่ที่กำลังแสวงหาลิขสิทธิ์รายการกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง ค่าใช้จ่ายต่ำ มีโอกาสฟันกำไรเป็นกอบเป็นกำ รวมถึงทำเรตติ้งได้ดี เพราะคนดูจะตั้งหน้าตั้งตารอเชียร์นักกีฬาไทย ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งหากเป็นกีฬาเอเชียนเกมส์ โอกาสที่จะเห็นนักกีฬาไทยลงแข่งขันในรอบลึกๆ หรือรอบชิงเหรียญก็จะยากขึ้น โดยเฉพาะกีฬาโอลิมปิค นักกีฬาไทย แค่ได้เข้าร่วมก็ยากแล้ว โอกาสชิงเหรียญเป็นเรื่องยากกว่า รวมถึงโอลิมปิคที่ญี่ปุ่นในปีหน้า ความหวังของนักกีฬาไทยก็ยิ่งน้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เหตุผลจาก กีฬามวยสากลสมัครเล่นของไทย มีประสิทธิภาพด้อยลง ในระดับนานาชาติก็ไม่ค่อยยอมรับกีฬาประเภทนี้ เพราะมักมีการตัดสินที่ค้านสายตาคนดูเป็นประจำ

นอกจากนี้กีฬาโอลิมปิคในระยะหลัง ประเทศไทยมักจะมีความหวังเหรียญทองจากกีฬายกน้ำหนักหญิง แต่ในโอลิมปิคที่จะถึงนี้ นักกีฬายกน้ำหนักหญิงของไทย ที่มีโอกาสคว้าเหรียญ ก็ถูกแบน ความหวังเหรียญทองในโอลิมปิคของไทยที่เด่นชัดที่สุด มีเพียง “เทกวนโดหญิง” รุ่น 49 กิโลกรัม ของ “น้องเทนนิส – พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” ที่ผลงานดีมาตลอด 3 ปีหลัง

ในปี 2562 คนไทยได้รับผลกระทบจากทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลก และภายในประเทศที่ตกต่ำ มีข่าวไม่ดีต่อเนื่องเป็นระยะ ก็หวังว่าซีเกมส์ครั้งนี้ จะเป็นความสุขส่งท้ายของปี ที่เหล่านักกีฬาไทยจะมอบให้กับคนไทยทั้งประเทศ ให้มีรอยยิ้มรับปี 2563 เชื่อว่านักกีฬาไทย จะทำให้เพลงชาติไทยกระหึ่มทั่วเกาะฟิลิปปินส์วันละหลายครั้ง คนไทยคงร่วมกันส่งแรงใจไปเชียร์นักกีฬาไทยกันอย่างเต็มที่แน่นอน

Tagged