“ร้องข้ามกำแพง –หัวท้ายตายก่อน” 2 รายการหลักสร้างเรตติ้งและรายได้ ดันธุรกิจทีวีเวิร์คพอยท์ ไตรมาสแรกดีขึ้น

ผลประกอบการ

บริษัท เวิร์คพอยท์ แจ้งผลประกอบการของ ไตรมาส 1 /2564 ต่อตลาดหลักทรัพย์ พบว่า รายได้รวมของบริษัท อยู่ที่ 579.64 ล้านบาท ลดลง 25.44 ล้านบาท หรือ 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 605.09 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 111.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.54 ล้านบาท หรือ 154% จาก ไตรมาส 1 / 2563 จากลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รายได้หลักของเวิร์คพอยท์ ยังคงเป็นกลุ่มรายได้จากรายการโทรทัศน์ไตรมาส 1 /2564 มีรายได้ส่วนนี้ 555.84 ล้านบาท อยู่ที่ 95.85 % ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 55.68ล้านบาทหรือ 11% จากรายได้ไตรมาส 1 / 2563 มีรายได้อยู่ที่ 500.16 ล้านบาท ซึ่งเวิร์คพอยท์ชี้แจงว่ารายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทมีรายการใหม่หลายรายการเช่น ร้องข้ามกำแพง หัวท้ายตายก่อน ซึ่งรายการดังกล่าวมีเรตติ้งดีทำให้ยอดขายโฆษณาปรับตัวดีขึ้น

กลุ่มรายได้จากรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวที และ การรับจ้างจัดงาน ลดลงมาก มีสาเหตุมาจากการงดจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้ในไตรมาส 1 มีการชะลอตัวลง โดยกลุ่มรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวทีลดลง 75 % แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองกลุ่มนี้มีสัดส่วนรายได้เพียงแค่ 0.48%ของรายได้รวม

ส่วนรายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นรายได้ส่วนนี้ สัดส่วน อยู่ที่ 2.22 % ของรายได้รวม ไตรมาส 1/ 2564 พบว่า มีรายได้อยู่ที่ 12.89 ล้านบาท ลดลง 54.05 ล้านบาท หรือ 81% จากไตรมาส 1 ปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 66.94 ล้านบาท (รายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นประกอบด้วย รายได้จากการจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ และสินค้าจากพันธมิตร รวมถึงรายได้จากการให้บริการเช่าพื้นที่โรงละครและรายได้จากการบริการจัดหานักแสดง ) ซึ่งเวิร์คพอยท์อธิบายว่าการลดลง ดังกล่าวมาจากการลดลง ของรายได้จากการจากการขายสินค้าเป็นหลัก

เวิร์คพอยท์ชี้แจงว่า ไตรมาสนี้บริษัทได้มีการลดต้นทุนการผลิตลงได้มาก โดยมีต้นทุนการผลิต 306.11 ล้านบาท ลดลง 42.03ล้านบาท หรือ 12% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ตามนโยบายลดต้นทุนเพื่อรับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกรณีโควิด-19 และลดต้นทุนจากการธุรกิจรายการโทรทัศน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Tagged