One + GMM 25 : 1+1 ต้องได้ 3

รวมเรื่องเด่น รายการข่าว รายการฮิต เกาะติดจอ

สรุปแถลงข่าวกลุ่ม เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ เรื่องทิศทางดำเนินธุรกิจ หลังการเปลี่ยนแปลง


เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 “บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” นำทีมผู้บริหารผลิตคอนเทนต์ทีวีและออนไลน์ในเครือ GMM Grammy แถลงข่าว ทิศทางดำเนินธุรกิจหลังการเปลี่ยนแปลงในบริษัท เดอะ วัน ฯ ที่เข้าไปซื้อหุ้น GMM Channel Holding โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ตั้งแต่ 
ลูกชาย “อากู๋ ไพบูลย์” “ตี้-ระฟ้า  ดำรงชัยธรรม” ซึ่งมีตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การตลาด  บริษัทเดอะ วันเอ็นเตอร์ไพรส์  ผู้ดูแลภาพรวมการตลาดของธุรกิจคอนเทนต์

 “พี่ฉอด-สายทิพย์  มนตรีกุล ณ อยุธยา”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เช้นจ์2561 ผู้ผลิตละครอิสระให้กับทุกช่อง  สถาพร พานิชรักษาพงศ์”   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทจีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด ผู้ผลิตซีรีส์วัยรุ่น รวมถึงซีรีส์วาย  “สมโรจน์  วสุพงศ์โสธร”  กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง ผู้ดูแลธุรกิจวิทยุของเครือแกรมมี่ และ “เอกชัย  เอื้อครองธรรม”  รองกรรมการผู้อำนวยการ-ฝ่ายผลิตรายการ

บริษัท
 จีเอ็มเอ็ม  สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งผลิตคอนเทนต์สู่ต่างประเทศ 

“บอย-ถกลเกียรติ” : Synergy ผู้ผลิตรายการ

ดีลนี้เป็นการร่วมมือกันของทุกผู้ผลิตในกลุ่ม เป็นการ Synergy กันทั้งหมด ซึ่งผู้ผลิตรายการแต่ละรายของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ล้วนแต่มีจุดแข็งที่แตกต่างกัน การมารวมกันเพื่อเป็น The Best โดยที่เราจะผลิตลงทั้งช่องทางทีวีและช่องทางออนไลน์ ในขณะที่ช่อง GMM25 ยังอยู่ ภายใต้ GMM Grammy แต่ The One เป็นผู้ไปรับทำการตลาดให้ โดยจะมีการแยก Target group ในการจัดวางคอนเทนต์ของทั้ง 2 ช่องให้แตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

ช่อง One จะเป็น Modern Mass ที่มีเป้าหมายคนทุก generation ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ที่จะแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ช่วงเวลาที่เด่นชัดที่สุดของช่องได้แก่ เวลาช่วง 6 โมงเย็น- 2 ทุ่ม ซึ่งตอนนี้ช่อง One เป็นอันดับ 1 ของช่วงเวลานี้ จากทั้งละครค่ำ และมีรายการร้องเพลง ตั้งแต่ “ดวลเพลงชิงทุน” และ “The Golden Song” ซึ่งเจาะกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศ แต่รายการไพรมไทม์หลัง 2 ทุ่ม เป็นละครเจาะกลุ่มคนเมือง

 

ส่วนช่อง GMM25  ด้วยชื่อแบรนด์ GMM ที่จะต้อง always young  ช่องนี้ จะ Trendy Lifestyle ที่เจาะอีกกลุ่มผู้ชม โดยมี GMMTV เป็นผู้ผลิตซีรีส์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ให้กับช่อง และระหว่างวัน เราจะเน้นรายการสด ที่ไม่ใช่รายการข่าว เช่นพวก soft news ที่เป็น lifestyle แนว entertainment และ music ที่เป็นจุดแข็งของเรา

 

ในฐานะที่เป็นคนทำคอนเทนต์ เราต้องผลิตคอนเทนต์ที่อยู่ทั้งในทีวี และออนไลน์ ที่คนดูได้ ที่ผ่านมาช่วงเดือนเม.ย.หรือ พ.ค. เราอาจจะกลัวว่า สปอนเซอร์ไม่เข้าเพราะเรื่องโควิด  แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถจัดการโควิดดี ทำให้เราสามารถเดินหน้าธุรกิจได้ และมองเห็นอนาคตที่ไม่น่าจะไกล เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น เป็นการลงทุนระยะยาวที่แข็งแรงมาก และที่สำคัญพวกเราแต่ละคนเป็นพวกไม่ยอมตาย สู้กันสุดๆมาก

“พี่ฉอด Change 2561” : ผลิตคอนเทนต์ให้ทุกช่อง และทุกช่องทาง

แนวทางของ Change 2561 ในฐานะบริษัทน้องใหม่ที่เกิดหลังสุด เราผลิตละคร อีเวนท์ และ showbiz โดยมีเป้าหมายที่อยากให้คอนเทนต์ของเราไปทุกที่  ทั้งในรูปแบบละครแนวของของเรา เราผลิตละครที่เข้าถึงชีวิตจริงของคน การเกิดขึ้นของดีลนี้ ทำให้เราต่อยอดงานเราให้กับกลุ่มต่อไป และยังสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอรฺมอื่นๆ และช่องทีวีดิจิทัลช่องอื่น เช่นในช่องอมรินทร์ทีวี และช่องอื่นๆ ที่จะเห็นในปีหน้า  รวมถึงแพลตฟอร์ม OTT ด้วย

สำหรับรายการที่ผลิตป้อนช่องอมรินทร์ทีวี จะยังมี ละคร ที่เราเป็นผู้ผลิตรายเดียวให้กับช่อง รายการ “ต้มยำอมรินทร์” และ “Club Friday Show” 

ส่วนรายการ “Club Friday The Series” ย้ายไปช่อง One คืนวันศุกร์แทน

 

สถาพร GMMTV : ปีหน้าซีรีส์วาย 6 เรื่อง ลงช่อง GMM 25

GMM TV มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตซีรีส์สำหรับวัยรุ่น ซึ่งรวมถึงการผลิตซีรีส์วายด้วย ปีนี้เราผลิตซีรีส์ทั้งหมด 13 เรื่อง เป็นซีรีส์วาย 3 เรื่อง ซึ่งเรื่อง “เพราะเราคู่กัน” แสดงโดย “ไบรท์ วิน” ดังมาก ทำให้คนจดจำเราในฐานะผู้ผลิตซีรีส์วายที่คนจดจำ ตลาดเลยเปิดรับเรามาก ทำให้แผนใหม่ในปีหน้า เราจะผลิตซีรีส์วายมากขึ้นเป็นเท่าตัว ถึง 6 เรื่อง สำหรับลงในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ทั้ง 7 วันในช่อง GMM25

 

“เอกชัย GMM Studio” ส่งออกคอนเทนต์ไปต่างประเทศ

ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ไปในตลาดต่างประเทศ เราพบว่าในตลาด OTT ระดับตลาดโลกจำนวนคนดูต่ออาทิตย์ สูงมาก จึงคาดว่าจะมีการลงทุน ในการทำคอนเทนต์ในตลาดเอเชียสูงและมีการเติบโตอย่างมหาศาล โดยน่าจะโตถึง 300% เราต้องการเป็นพาร์ทเนอร์สำคัญกับทุกคนทุกระดับ รวมถึงระดับ premium ทั้งผู้กำกับ ทั้งร่วมงานกันในระดับนานาชาติ และระดับภูมิภาคนี้ ด้วยการเป็นผู้ส่งออกคอนเทนต์ไทยไปในตลาดต่างประเทศ

 

“สมโรจน์ GMM Media” : ต่อยอดรายการวิทยุไปทีวี เพิ่ม “แฉ ข่าวเช้า” ช่อง GMM25

ในฐานะผู้ผลิตรายการวิทยุ ในปีหน้า เรามอง beyond radio โดยจะต่อยอดไปสู่คอนเนต์ออนไลน์ รายการทีวี และจะมีรายการใหม่ที่ช่อง GMM25 ด้วย อะไรที่เป็นการต่อยอดจากวิทยุ เราจะได้ทำ ทั้งนี้รายการใหม่ รวมรายการ “แฉข่าวเช้า” อีก 1 รายการ  เวลา 8 โมงเช้า เป็นรายการประเภท Soft News

“ระฟ้า ดำรงชัยธรรม” : 1+1 = 3

ดีลนี้ เรามองว่า 1+1 = 3 เพราะจะทำให้เกิด ecosystem มากขึ้น ทั้งผู้ผลิตและนักแสดง องค์กรจะแข็งแรงมากขึ้น มีประสิทธิภาพ มั่นคงมากขึ้น  เราจะผ่าน disruption นี้ไปได้ ด้วยการสร้างคอนเทนต์ไปสู่เป้าหมายคนดู ทุก segment ทั้ง online และ offline โดยในขั้นตอนต่อไป เราพยายามจะหาคนเก่งมาสร้างคอนเทนต์ให้คนไทยดู และนำคอนเทนต์ไทยไปสู่ระดับโลก

 

สำหรับการประเมินภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิทัล และทิศทางอุตสาหกรรมนั้น ที่หลายๆมองว่าคนดูทีวีลดลงเรื่อยๆนั้น  แต่ความเป็นจริงแล้ว เราพบว่าตั้งแต่ปีที่แล้ว คนดูและเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมนี้ เริ่ม stable แล้ว แต่ที่เม็ดเงินโฆษณาลดลง เพราะ supply  และ demand ไม่เท่ากัน มีการแข่งขันกันลดราคาสูง แต่ตอนนี้เริ่มปรับราคากัน เม็ดเงินจะกลับมาแล้ว แต่ปีนี้เจอโควิดเข้าไป ดังนั้นเชื่อว่า ปีหน้าเม็ดเงินโฆษณาปีหน้าน่าจะเพิ่มขึ้น

 

โดยสรุปดีลนี้ “บอย ถกลเกียรติ”ระบุว่าใช้เงินงบประมาณทั้งหมดประมาณ 2,200 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้มีการแจกแจงว่าเป็นส่วนการซื้อหุ้น และการลงทุนเท่าไร แต่จากที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ล่าสุด ระบุว่าวงเงินการซื้อหุ้น 1,200 ล้านบาท

 

สำหรับเรื่องแผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น “บอย” ตอบเพียงว่า มีโอกาส ที่กำลังศึกษากันอยู่

 

ส่วนคำถามที่หลายๆคนอยากรู้ว่า การร่วมมือกันครั้งนี้มีความคาดหวังจะฟื้นความนิยมช่อง GMM 25 ให้ติดระดับ TOP  เมื่อไรนั้น  “บอย –ถกลเกียรติ” บอกว่า  การไปเป็นอันดับไหน หรือเป็น TOP5 ไม่ใช่ประเด็น  เพราะทุกวันนี้ คอนเทนต์ที่ผลิตทั้งหมด สามารถไปออนทั้งทีวีและออนไลน์ ที่จะเป็นแหล่งที่มาของรายได้ทั้งหมด  โดยไม่ได้จากเรตติ้งเท่านั้น ซึ่งมีตัวอย่างของกรณี “ ไบรท์ วิน”  ที่ดังมาก แต่ละครเรตติ้งไม่สูง แต่คนเห็นเขาทุกมุมเมือง ดังนั้นคอนเทนต์สำคัญมาก ถ้าเรามีคอนเทนต์ได้ทุกช่องทาง จะดีสุด เป็นที่สนใจของสปอนเซอร์

 

“ กว่าจะเป็นดีลนี้ได้ เราพูดคุยกันมานานหลายเดือน เพราะเราเล็งเห็นโอกาสแล้ว ในการรวมกัน และต้องทำเพื่อให้ 1+1 = 3”

 

เมื่อ 1+1 ไม่เท่ากับ 2 แต่จะต้องได้ 3 จะเป็นไปได้หรือไม่ ปีหน้ามาดูผลงานกัน

 

(ข่าวที่เกี่ยวข้อง

https://www.tvdigitalwatch.com/news-gmm-grammy-one-29-11-63/)

Tagged